สารอาหารจากอาหาร 5 หมู่ ครบทั้งปริมาณและคุณภาพ

อาหาร 5 หมู่ ครบทั้งปริมาณและคุณภาพ
หมอมักจะแนะนำเสมอๆ ว่า " กินอาหารให้ครบ 5  หมู่ สุขภาพของคุณจะแข็งแรงไม่เป็นโรค " เป็นคำแนะนำที่เราทุกคนยอมรับว่าถูกต้องแต่มีผลทางการปฎิบัติพบว่าน้อยคนที่จะทำได้ วันนี้ทางเลือกที่เป็นไปได้ที่คุณจะได้รับสารอาหารที่ย่อยมาจากอาหารพร้อมให้คุณได้ใช้คุณสมบัตินี้และยังเติมสารอาหารที่จำเป็นให้กับจุลินทรีย์ดีในลำไส้ของเราที่เรารู้จักกันดีในชื่อของ " แลคโตบาซิลัส " ให้คุณอีกด้วย

สะดวกและง่าย ได้คุณค่าสารอาหารครบ 5 หมู่ทั้งปริมาณและคุณภาพ
     ตอบโจทย์ให้กับทุกคน ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร ที่ได้รับอนุญาติจาก อย ให้สามารถพิมพ์ข้อความนี้ลงบนกล่องได้ตามกฎหมาย ผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ 100 % จากแหล่งผลิตเกษตรอินทรีย์ เจ้าเดียวที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมและเอกสารรับรองเกษตรอินทรีย์ 100 % ที่ปลอดภัยที่สุดของประเทศสหรัฐอเมริกา

ปลอดภัยต่อการใช้ระยะยาว ไม่เสี่ยงกับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาจากแหล่งที่ไม่ได้มาตราฐาน คุณจึงมั่นใจได้สนิทใจต่อการบริโภค ให้ความคุ้มค่าในราคาที่ย่อมเยาว์เมื่อเทียบคุณภาพกับราคา

นักวิทยาศาสตร์มากกว่า 700 คนที่ทำงานให้เราเต็มเวลา

สินค้าแต่ละตัวของเรา มีการพัฒนาวิจัยอย่างต่อเนื่อง

สิทธิบัตรของสินค้าที่ทุกบริษัทไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ มีนักวิทยาศาสตร์มากกว่า 700 คนสินค้าแต่ละตัวของเรา มีการพัฒนาวิจัยอย่างต่อเนื่อง

ผลิตภัณฑ์ทดแทนสารอาหารให้สารอาหารชนิดใดกับคุณบ้างดูลายละเอียดได้ต่อไปนี้

สารอาหารจำนวนเท่าใดจึงจะเรียกว่าได้รับสารอาหารครบ
     ในแต่ละวันเราควรได้รับสารอาหารที่หลากหลาย โดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ได้ให้ข้อมูลโภชนาการที่ดีที่เราควรได้รับในหนึ่งวันประกอบไปด้วยสัดส่วนสารอาหารดังปิรามิดโภชนาการนี้

มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ได้ให้เรารักษา น้ำหนักตัวให้อยู่ในมาตราฐาน BMI เป็นพื้นฐานสำคัญของสุขภาพ ซึ่งมาจากความสมดุลระหว่างอาหารที่กินเข้าไปกับพลังงานที่ใช้ โดยการกินอาหารที่สมดุลคือกินธัญพืชขัดสีต่ำและผักผลไม้ในสัดส่วนที่เท่ากัน โดยเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดจากกลุ่มอาหารทุกชนิด รองลงมาเป็นโปรตีน แนะนำให้เลือกกินโปรตีนจากพืชเท่าๆกับ โปรตีนจากเนื้อสัตว์ ดื่มนมพอสมควร กินเนื้อแดง ข้าวขาวขนมปังขาว แป้งขัดขาวและน้ำตาลในปริมาณน้อยที่สุดในแต่ละวัน เมื่อทราบเช่นนี้แล้วมื้อต่อๆไป ก่อนสั่งอาหารต้องใส่ใจเลือกเมนูให้มากขึ้น เมื่อกินอาหารด้วยความตระหนักถึงคุณค่าที่จะได้รับอยู่เสมอ คุณก็จะได้รับสารอาหารคุณภาพครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ

โปรตีนเป็นส่วนประกอบหลักของเนื้อเยื่อ เอนไซม์ ฮอร์โมนในร่างกาย รวมทั้งยังเป็นส่วนประกอบที่ สำคัญของเลือดและระบบภูมิคุ้มกัน พบมากในอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ต่างๆ ไข่ ถั่ว นม โปรตีนเมื่อย่อย แล้วจะให้กรดอะมิโน

โปรตีนจากพืชเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพ แต่โปรตีนจากพืช เช่น ถั่วและ ธัญพืช มีปัญหาของกรดอะมิโนจำกัดชนิดใดชนิดหนึ่งหรือหลายชนิด เป็นต้นว่าถั่ว มีกรดอะมิโนไลซีน (lysine) สูง แต่กลับมีกรดอะมิโนเมไธโอนีน (methionine) ต่ำ กรดอะมิโนเมไธโอนีนจึงเป็นกรด อะมิโนจำกัดของถั่ว ส่วนโปรตีนจากข้าวและงามีเมไธโอนีนสูง ขณะที่มีไลซีนเป็นกรดอะมิโนจำกัด

การผสมข้าวหรืองากับถั่วจึงนับเป็นการแก้ปัญหากรดอะมิโนจำกัดของกันและกัน นักโภชนาการจึง แนะนำให้ผู้ที่ถือมังสวิรัติเสริมโปรตีนจากถั่ว เช่น ถั่วเหลืองโดยผสมงาหรือธัญพืชเพื่อชดเชยกรด อะมิโนจำกัดในถั่ว นับเป็นความชาญฉลาดของศาสตร์ทางด้านโภชนาการทำให้คนที่มีปัญหาใน การแพ้โปรตีนจากสัตว์ เช่น เนื้อ และนม ได้มีทางเลือกในการบริโภคโปรตีน โดยยังได้รับโปรตีน ที่มีคุณภาพ และได้กรดอะมิโนจำเป็นอย่างครบถ้วน

คุณประโยชน์ต่อสุขภาพของโปรตีนจากพืช
ถั่วเหลือง เป็นพืชที่มีปริมาณของโปรตีนมากที่สุดถึง 36 – 56% ของน้ำหนักถั่งเหลือง อีกทั้งมี ไฟโตนิวเทรียนท์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มีปริมาณของกรดอะมิโนจำกัดบางชนิดคือ เมไธโอนีน (Methionine) การบริโภคโปรตีนถั่วเหลือง 25 กรัมต่อวันช่วยลดโคเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL-Cholesterol)

ถั่วพีหรือถั่่วเมล็ดเปียก แหล่งอันอุดมของไลซีน (Lysine) เป็นกรดอะมิโนที่สำคัญและจำเป็น สำหรับร่างกายมนุษย์ในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และการเจริญเติบโตของโมเลกุลของโปรตีนในร่างกาย มนุษย์ อาร์จีนีน (Arginine) มีบทบาททางสุขภาพที่หลากหลาย เช่น เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน รักษา บาดแผล และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และเป็นกรดอะมิโนแบบกิ่ง (Branch chain amino acid: BCAA) ช่วยป้องกันการเกิดอาการแพ้ ทำให้ร่างกายมีความสามารถในการย่อยสูง

ข้าวสาลี เป็นแหล่งอุดมด้วยเมไธโอนีน (Methionine) และกลูตามีน (Glutamine) เป็นกรดอะมิโน จำเป็นที่เป็นโครงสร้างหลักของโปรตีนของเซลล์กล้ามเนื้อ ช่วยลดการเสื่อมสลายของกล้ามเนื้อ ช่วยให้สมองมีการทำงานที่ดีมากขึ้น

ข้าวสาลี เป็นแหล่งอุดมด้วยเมไธโอนีน (Methionine) และกลูตามีน (Glutamine) เป็นกรดอะมิโน จำเป็นที่เป็นโครงสร้างหลักของโปรตีนของเซลล์กล้ามเนื้อ ช่วยลดการเสื่อมสลายของกล้ามเนื้อ ช่วยให้สมองมีการทำงานที่ดีมากขึ้น

สาเหตุที่ร่างกายคุณเสื่อมสภาพเป็นหนึ่งในการขาดโปรตีน เซลล์จึงอ่อนแรง อ่อนล้า ทำงานได้ไม่ปกติ กินโปรตีนให้เพียงพอ ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกเหรอ

มารู้เรื่องของเซลล์กัน
เซลล์คืออะไร? เซลล์คือโครงสร้างและหน่วยทำงานที่เล็กที่สุดเป็นสิ่งมหัศจรรย์เล็กๆ ที่สิ่งมีชีวิต ทุกชนิดต้องมี เซลล์มีหน้าที่ช่วยสร้างและซ่อมแซมอวัยวะต่างๆ รวมทั้งผิวหนัง กล้ามเนื้อ กระดูก เซลล์จึงถือว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญในร่างกายของเรา

ความสำคัญของโปรตีนต่อสิ่งมีชีวิต

1. โปรตีน 1 กรัม ให้พลังงานเท่ากับคาร์โบไฮเดรต 1 กรัม คือ 4 กิโลแคลอรี

2. ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างของร่างกายและซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ ที่สึกเหรอ

3. ช่วยทำให้ร่างกายเจริญเติบโตใช้ในการสร้างเนื้อเยื่อ

4. ช่วยให้เกิดความสมดุลในร่างกาย คือจะควบคุมการเข้าออกของน้ำภายในเซลล์

5. ช่วยกระตุ้นกระบวนการต่างๆ ในร่างกาย เช่น ย่อยอาหารทำให้อวัยวะทำงานได้ตามปกติ

6. ช่วยสร้างภูมิต้านทาน (Antibody) ให้กับร่างกายและทำลายพิษต่างๆ ในร่างกาย

การเสริมโปรตีนกับโรคและสุขภาพ

การขาดโปรตีนสร้างปัญหามากมาย ก่อให้เกิดโรคกวาชิออร์กอร์ แคระแกร็น กล้ามเนื้อลด ภูมิต้าน- ทานของร่างกายลด หัวใจและระบบการหายใจมีปัญหา ขาดมากขึ้นอาจเสียชีวิต การได้รับโปรตีน สม่ำเสมอจึงช่วยสร้างเสริมสุขภาพให้เป็นปกติ ทั้งการเสริมโปรตีนมากขึ้นยังช่วยสร้างกล้ามเนื้อใน นักกีฬาบางประเภท นอกจากนี้ยังพบประโยชน์ของการเสริมโปรตีนในบางประเด็น เช่น การควบคุม น้ำหนัก รวมถึงกรณีความห่วงใยเรื่องโปรตีนกับปัญหาโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน สรุปได้ดังนี้

โปรตีนกับการควบคุมน้ำหนัก

มีรายงานการวิจัยเปรียบเทียบผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยสูตรอาหารคาร์โบไฮเดรตสูง ไขมันต่ำ เทียบกับสูตร คาร์โบไฮเดรตต่ำ โปรตีนสูง พบว่าในช่วงหกเดือนแรกสูตรโปรตีนสูงให้ผลในการลดน้ำหนักดีกว่ามาก ส่วนในระยะยาวให้ผลไม่ต่างกัน การใช้สูตรอาหารโปรตีนสูงช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้ ทั้งนี้ ต้องระวังไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์จากแหล่งโปรตีนจากสัตว์ด้วย (Brehm et al 2003, Foster et al 2003, Samaha et al 2003, Stern et al 2004, Yancy et al 2004, Dulloo 2011, Sedlacek et al 2011) มีหลายเหตุผลที่ทำให้อาหารโปรตีนสูงให้ผลต่อการลดน้ำหนักดีกว่าอาหาร คาร์โบไฮเดรตสูง คือทำให้อิ่มนานกว่า ช่วยควบคุมการเพิ่มของน้ำตาลในเลือดได้ดีกว่า นอกจากนี้ การย่อยโปรตีนใช้พลังงานมากกว่า (Halton and Hu 2004) ข้อแนะนำการเสริมอาหารโปรตีนสูง คือหมั่นรับประทานผักผลไม้ที่ไม่หวานเพื่อให้ร่างกายได้รับใยอาหาร วิตามิน เกลือแร่อย่างครบถ้วน อีกสิ่งหนึ่งที่ควรเข้าใจร่วมกันคือมีคนจำนวนไม่น้อยเข้าใจว่าอาหารสูตรโปรตีนสูงหมายถึงเนื้อสัตว์สูง ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด สูตรโปรตีนสูงในที่นี้หมายถึงโปรตีนสมบูรณ์ที่มาจากพืชหรือสัตว์ก็ได้ ในกรณี ที่เป็นโปรตีนจากสัตว์ให้ระวังไขมันและโคเลสเตอรอลที่แทรกมากับเนื้อ นมและไข่ กรณีโปรตีนพืช จะได้ประโยชน์จากสารไฟโตนิวเทรียนท์เพิ่มเติมไปด้วย

โรคหัวใจและหลอดเลือด

การสำรวจสุขภาพภาคสนามที่ใช้ระยะเวลานานในงาน the Nurses' Health Study ซึ่งทำการ ติดตามศึกษาพยาบาลหญิงจำนวน 121,700 คน พบว่าผู้ที่บริโภคโปรตีนมากกว่า 114 กรัมต่อวัน ตลอดช่วงเวลา 14 ปี ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนจากสัตว์หรือจากพืช มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอด เลือดน้อยกว่าผู้ที่บริโภคโปรตีนอย่างปกติในระดับ 68 กรัมต่อวัน การศึกษาแสดงให้เห็นว่าโปรตีน ปริมาณสูงไม่สร้างปัญหาหากรู้วิธีการเสริม เช่น การเลี่ยงไขมัน และโคเลสเตอรอลจากสัตว์และลด การบริโภคคาร์โบไฮเดรตกลุ่มที่ขัดสีมาก เช่น น้ำตาล

เบาหวาน

เคยมีรายงานที่ว่าโปรตีนจากนมวัวอาจสร้างปัญหาเร่งให้เกิดเบาหวานในเด็กและวัยรุ่น อย่างไร- ก็ตามรายงานนี้ยังยืนยันได้ไม่ชัดเจน นอกจากนี้ยังพบว่าการเสริมโปรตีนในผู้สูงอายุไม่ก่อปัญหา เบาหวาน หากยังไม่มั่นใจโปรตีนจากสัตว์ควรเสริมด้วยโปรตีนจากพืชชนิดที่ป้องกันปัญหา กรดอะมิโนจำกัดไว้แล้ว

มะเร็ง

ไม่มีรายงานวิจัยใดที่กล่าวว่าการได้รับโปรตีนน้อยหรือเสริมโปรตีนมากเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคมะเร็ง (Harvard School of Public Health 2011) อย่างไรก็ตาม ควรระวังการปรุงอาหารโปรตีนสูงอย่าง ไม่ถูกต้อง เช่น การที่อาหารสัมผัสไฟโดยตรงจากการปิ้ง ย่าง ผิง หรือการใช้ความร้อนสูงในเวลานาน จากการทอดท่วม (deep frying) รวมทั้งการใช้สารกันบูดซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งมากกว่าสารโปรตีน หรือไขมัน

กระดูกพรุน

ประเด็นที่มีการกล่าวถึงมากที่สุดทางด้านข้อเสียของการเสริมโปรตีนคืออาจเร่งปัญหากระดูกพรุนใน หญิงวัยหมดประจำเดือนและชายสูงอายุ คำอธิบายในเรื่องนี้คือการบริโภคโปรตีน หากมากเกินความ ต้องการของร่างกายมากนัก โปรตีนถูกย่อยสลายทิ้ง ปลดปล่อยกรดออกมาในกระแสเลือด ร่างกาย แก้ไขโดยปรับเลือดให้มีสภาวะเป็นกลางโดยใช้ธาตุแคลเซียมและสารอื่นๆ ที่มีฤทธิ์ในการปรับสภาวะ กรดด่างในเลือด โดยส่วนหนึ่งเป็นการนำแคลเซียมออกมาจากกระดูก อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ที่บริโภค อาหารโปรตีนสูงมากต่อเนื่องกันในระยะเวลานานอาจมีผลทำให้กระดูกโปร่งบาง แต่การบริโภค อาหารโปรตีนสูงเป็นครั้งเป็นคราวโดยไม่สูงเกินไปนัก ไม่สร้างปัญหากระทบต่อมวลกระดูก (Feska- nich D et al 1996) การแก้ไขปัญหา หากจำเป็นต้องเสริมโปรตีนสูงอาจทำได้โดยการเสริม แคลเซียมไปพร้อมๆ กันเพื่อช่วยลดการสูญเสียมวลกระดูกลง ทั้งนี้เนื่องจากการเสริมโปรตีนช่วย กระตุ้นการสร้างสาร IGF-1 ที่เร่งการสร้างมวลกระดูกจากแคลเซียมอยู่แล้ว การเสริมแคลเซียมร่วม กับโปรตีนจะช่วยให้เกิดการสร้างมวลกระดูกดีขึ้น

ไฟโตนิวเตรียน
     เป็นกลุ่มสารอาหารที่ได้จากพืชผักผลไม้ ให้สีสันต่างๆ มีผลในการส่งเสริมสุขภาพมนุษย์ โดยมีการทบทวนเอกสารด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์เพื่อกำหนดอาหารที่มีคุณค่าต่อ การบริโภคทั่วไปให้มีความสัมพันธ์กับประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณสมบัติทางชีวเคมี โดยเฉพาะที่ช่วยให้สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ซึ่งจำนวนส่วนผสมเข้มข้น 200 ชนิดที่ แตกต่างกันผ่านการทดสอบต่างๆ ทางชีววิทยา เพื่อค้นหาว่า การทดสอบประเภทใดให้ผล ดีที่สุด ซึ่งได้แก่การปกป้องเซลล์จากการทำลายของแหล่งอนุมูลอิสระที่แตกต่างกัน 5 ชนิด ได้แก่ เพอรอกซิล ไฮดรอกซิล เพอรอกซิไนไตรท์ ซูเปอร์ออกไซด์ ซิงเกลทออกซิเจน การหาจำนวนรวมของ ความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ มากน้อยแตกต่างกันอย่างไร รวมทั้งปริมาณของสารประกอบ โพลีฟีนอลซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติที่ดีในการทำลายอนุมูลอิสระและสุดท้ายคือ ผลต่อการ สร้างเอนไซม์ในระยะที่ 2 (Phase II Enzyme ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ช่วยขจัดพิษ) เนื่องจาก สูตรเข้มข้นแต่ละชนิดประกอบด้วยการผสมผสานของไฟโตนิวเทรียนท์ที่แตกต่างกัน และ ไฟโตนิวเทรียนท์แต่ละชนิดก็ทำหน้าที่แตกต่างกันด้วย

สีแดง

อะเซโรลา

สารสกัดจากอะเซโรลาทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับถั่วเหลือง และอัลฟัลฟา ไฟโตเอสโตรเจน เพื่อยับยั้งกระบวนการออกซิเดชั่นของไขมันชนิดเลว (LDL-Cholesterol)

อะเซโรลาเข้มข้นประกอบด้วยวิตามินซี 20% ทำงานเท่ากับกรดแอสคอร์บิค (Ascorbic acid) ในการยับยั้งการเกิดเนื้้องอกบนผิวหนัง

สารสกัดจากอะเซโรลาจะทำงานได้ดีหากนำมาใช้เฉพาะที่ในการทดสอบเดียวกัน (โดยระบุว่า สารสกัดอะเซโรลาประกอบด้วยไฟโตนิวเทรียนท์ที่มีประสิทธิภาพนอกเหนือจากวิตามินซีเพื่อเร่ง การเติบโตของเซลล์ตามปกติ)

แอปเปิ้ล

เป็นแหล่งอาหารที่อุดมด้วยเควอซิทิน แคททิชิน โพรไซยานิดิน โฟลริดซิน โฟลเรทติน ไกลโคไซด์ กรดแคฟเฟอิค กรดคลอโรเจนิค

ผลทับทิม

ในการศึกษาเบื้องต้น พบว่ายับยั้งกระบวนการออกซิเดชั่นของ LDL-Cholesterol ได้ถึง 43% ในผู้ชายที่แข็งแรง แต่ในหนูพบว่ากระบวนการออกซิเดชั่นถูกยับยั้งประมาณ 90% และขนาดของ รอยโรคที่เกิดจากหลอดเลือดแดงแข็งลดลงประมาณ 44%

ในผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดแดง หากดื่มน้ำทับทิมปริมาณ 4 ออนซ์ทุกวันเป็นเวลาหนึ่งปี จะทำให้ขนาดของรอยโรคที่เกิดจากหลอดเลือดแดงแข็งในหลอดเลือดคาโรติกลดลง

น้ำทับทิมมีประสิทธิภาพการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าไวน์แดงและชาเขียวถึง 3 เท่า ซึ่งเป็นการทำงานที่สูงกว่าจากสารสกัดของผลทับทิมทั้งหมดเมื่อเทียบกับ arils (ส่วนที่กินได้) ดังนั้น จึงแสดงว่ากรดแอลลาจิค แอนโทไซยานิน และแทนนินที่สลายตัวเนื่องจากการดูดซึมน้ำ จากเปลือกผลไม้ (เช่น punicalgin) มีส่วนเสริมการทำงานโดยรวมของสารต้านอนุมูลอิสระของ น้ำผลไม้ทั่วไป

แครนเบอร์รี่

สารสกัดของแครนเบอร์รี แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมกว่าวิตามินอีในการเป็นสารต้าน อนุมูลอิสระ นอกจากนี้ ยังสามารถขัดขวางการเติบโตของเซลล์มะเร็งตับในมนุษย์

สารสกัดจากบลูเบอร์รีและแครนเบอร์รี ประกอบด้วยกรดแอนโทไซยานินและ ไฮดรอกซีซินนามิคโพลิฟีนอลจากสารสกัดผลเบอร์รีทั้งสองชนิดจำกัดอยู่ที่เซลล์บริเวณเส้นเลือด และช่วยลดภาวะ Oxidation Stress (ภาวะที่อนุมูลอิสระมากจนสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ไม่เพียงพอ) ที่เพิ่มขึ้น และลดปัจจัยที่ทำให้เกิดการอักเสบบริเวณเยื่อบุอวัยวะในระบบไหลเวียน ของโลหิต ด้วยเหตุนี้นักวิจัยหลายท่านจึงแนะนำว่าอาจช่วยลดการเกิดและการพัฒนาของโรค ที่เกี่ยวกับต่อมน้ำเหลือง ทั้งยังลดอาการระบบประสาทเสื่อมอันเนื่องมาจากวัยด้วย

แครนเบอร์รีมีปริมาณสารประกอบฟีนอลสูงที่สุดตามมาด้วยองุ่นแดง ผลไม้ เช่น แอปเปิ้ลและ แครนเบอร์รีมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยไม่ให้เกิดกระบวนการออกซิเดชั่นต่อ LDL-Cholesterol เนื่องจากถ้ามีกระบวนการนี้เกิดขึ้นจะทำให้ LDL-Cholesterol เกาะเส้นเลือดและทำให้เส้นเลือด อุดตันรุนแรงขึ้น

มีส่วนผสมของแอนโทไซยานิน เบต้า-แคโรทีน กรดคลอโรเจนิค กรดพี-คูมาริค กรดเฟอรูลิค กรดมาลิค กรดวานิลลิค เบต้า-กลูโคไซด์ กรดโพรโตเคทชูอิค และกรดแคฟเฟอิค

ไลโคปิน (สารสกัดจากมะเขือเทศ)

ไลโคปีนช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชาย

ไลโคปีนอาจป้องกันความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ

ไลโคปีนอาจลดอาการไหม้แดดของผิวหนัง (Sunburne) เป็นต้น

สีม่วง

บลูเบอร์รี

บลูเบอร์รี มีกรดคลอโรเจนิคและแอนโทไซยานินสูง โดยสารทั้งสองเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ และมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ

บลูเบอร์รีเป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีไฟโตนิวเทรียนท์ ที่ให้ค่าความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูง พบว่าหนูแก่ที่ถูกเลี้ยงด้วยบลูเบอร์รี มีพัฒนาการเรื่องการรับรู้ หน่วยประสาทมีการเจริญเติบโตขึ้นใหม่ การสื่อสารระหว่างเซลล์สมองดีขึ้น และช่วยขจัดซากโปรตีนที่ถูกทำลายเพื่อไม่ให้มันสะสมและนำไปสู่การทำงานที่บกพร่องของประสาท

สารสกัดจากเมล็ดองุ่น

สารสกัดจากเมล็ดองุ่นทำให้สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ เมื่อเปรียบเทียบกับวิตามินซี อี และเบต้า-แคโรทีน

พลัมสดและพลัมแห้ง

พลัมแห้งมีจำนวน ORAC สูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทั้งหมด เท่ากับ 5,770 ต่อ 100 กรัม

สีเขียว

บร็อคโคลี และผักตระกูล cruciferous เช่น คะน้าบรัสเซล สเปราท์ กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ วอเตอร์เครส ฮอร์สเซราดิช เทอร์นิพส์ หัวผักกาดแดง มีกลูโคซิโนเลทสูง ที่สามารถเปลี่ยนเป็น ซัลโฟราเฟนในร่างกายได้ การศึกษาด้านวิทยาโรคระบาดพิสูจน์ว่าการบริโภคผักตระกูล cruciferous มากขึ้น เช่น บร็อคโคลี บรัสเซล สเปราท์ และกะหล่ำปลี ช่วยลดความเสี่ยงของการก่อโรคมะเร็งที่ตับอ่อน ปอด ลำไส้ใหญ่ส่วนตรง และต่อมลูกหมาก

เอกสารด้านการแพทย์แนะนำว่า โดยทั่วไปมีความสัมพันธ์แบบผกผันกันระหว่างการบริโภคผัก ตระกูล Brassic กับความเสี่ยงของโรคมะเร็ง ยิ่งบริโภคมาก ความเสี่ยงยิ่งน้อยลง

คะน้า การบริโภคคะน้าหนึ่งหน่วยบริโภคให้วิตามินเอ 96% วิตามินซี 45% วิตามินเค 590%

ตามข้อกำหนดของ RDA คะน้ามีเบต้า-แคโรทีนมากกว่าบร็อคโคลี 7 เท่า และมีลูทีนมากกว่า บร็อคโคลี 11 เท่า

วอเตอร์เครสมีความเข้มข้นของเบต้า-ฟีเนทิลไอโซไธโอไซยาเนต ซึ่งเป็นสารประกอบที่นำไปสู่ เอนไซม์ระยะที่ 2 (สนับสนุนการกำจัดสารพิษจากร่างกาย)

เชื่อกันว่าวอเตอร์เครสเป็นหนึ่งในส่วนประกอบของอาหารที่สำคัญซึ่งช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้ ในชาวเมารี ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อเปรียบเทียบกับประชากรของนิวซีแลนด์ที่เหลือ เพราะ วอเตอร์เครสเป็นส่วนประกอบชนิดหนึ่งในอาหารของชาวเมารี

อัลฟัลฟา ส่วนยอดของอัลฟัลฟาเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยอาพิเจนิน เคมฟีรอล คริสโซริออล และแคโรทีนอยด์ อีกหลายชนิด

การทดสอบทางชีววิทยาภายในระบุว่าสารสกัดจากอัลฟัลฟาเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสารต้าน อนุมูลอิสระจากการวิเคราะห์ค่า ความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้นจึงช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ 5 ประเภทหลักที่พบใน สภาพแวดล้อม ได้แก่ Peroxyl Hydroxyl Superoxide Singlet Oxygen และ Peroxynitrite

การทดสอบทางชีววิทยาภายในยังแสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากอัลฟัลฟานำไปสู่การทำงานของ เอนไซม์ระยะที่ 2 ซึ่งทดสอบด้วยวิธี Quinone Reductase Induction

โรสแมรี สารสกัดจากโรสแมรี เป็นตัวยับยั้งที่มีประสิทธิภาพของกระบวนการออกซิเดชั่นแบบ peroxida- tion ของไขมันและยังช่วยยับยั้งฤทธิ์ของไฮโดรเจน เพอร์ออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สารสกัดจากโรสแมรี ช่วยลดการแสดงออกของ HSP70 (โปรตีนที่ถูกสังเคราะห์เพื่อตอบสนอง ต่อความเครียด) ในเซลล์สร้างเส้นใยในผิวมนุษย์ โดยลด Oxidative Stress (ภาวะที่อนุมูลอิสระ มากจนสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายไม่เพียงพอ)

โรสแมรีมีกรดเทอร์พีนอยด์ คาร์โนซิค (Terpenoid carnosic acid) ซึ่งเป็นสารประกอบที่ สามารถกำจัดอนุมูลอิสระที่แตกต่างกันหลายชนิด

กรดโรสแมรีนิคและกรดคาร์โซนิค (เช่นเดียวกับกระเทียม และกลาบริดินจากชะเอม) ทำปฏิกิริยา เสริมฤทธิ์กับไลโคปีน เพื่อยับยั้งกระบวนการออกซิเดชั่นของ LDL-Cholesterol และการทำงาน จะมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นเมื่อไฟโตนิวเทรียนท์ หลายชนิดถูกนำมาใช้พร้อมๆกันเพื่อลดกระบวน การออกซิเดชั่นของ LDL-Cholesterol ในหลอดทดลอง

ออริกาโนประกอบด้วยฟาร์นีซอล จำนวนเพียงเล็กน้อยของสารประกอบฟาร์นีซิลแอนทรานิเลตที่ อยู่ในอาหารสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอกบนผิวหนังที่เติบโตอย่างรวดเร็วในหนู

ออริกาโนมีสารประกอบหลายชนิดที่ทำหน้าที่ต่อต้านการเกิดลิ่มเลือด

เบซิล (โหระพา) ประกอบด้วยเจอรานิออล รวมทั้งยูจีนอล เคมฟีรอล ไมร์ซีน เควอซิติน รูติน กรดแคฟเฟอิค และไธมอล ซึ่งล้วนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

เซจ มีค่า มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูงเช่นกัน สูงเช่นกัน แต่เป็นสมุนไพรที่มีเรื่องราวได้รับการตีพิมพ์น้อยมาก

พาร์สลีย์ ประกอบด้วยฟลาโวนอยด์หลายชนิด รวมทั้งเอพิเจนิน ลูทีโอลิน ไครโซเออรอล เคมฟีรอล เควอซิติน ไอโซแรห์มเนติน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูลอิสระของส่วน ที่เป็นพลาสมาในเลือดของหนูโดยสารต้านอนุมูลอิสระจะมีประสิทธิภาพสูงที่สุดหลังจากที่หนู ได้รับอาหารที่มีพาร์สลีย์เข้มข้นแล้วเมื่อให้คนรับประทานอาหารที่มีพาร์สลีย์ซึ่งเข้มข้นด้วย เอพิเจนินเป็นเวลา 2 สัปดาห์ พบว่ามีการทำงานของเอนไซม์ที่ต้านอนุมูลอิสระ (กลูตาไทโอน รีดัคทาสและซูเปอร์ออกไซด์ ดิสมิวเทส) เพิ่มมากขึ้น เป็นเพราะพาร์สลีย์มีผลการปกป้องต่อการ ทำลายของกระบวนการออกซิเดชั่น

หน่อไม้ฝรั่ง (แอสพารากัส) แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของกลูตาไธโอน ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ทำลายและเปลี่ยนแปลงสารอนุมูลอิสระ ที่มีฤทธิ์ทำลายเซลล์

การบริโภคหน่อไม้ฝรั่ง 1 หน่วยบริโภค ให้โฟเลตที่ควรได้รับต่อวัน 33%

สีส้ม สีเหลือง

เบต้า-แคโรทีน สามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกาย และยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี

ลูทีน (สารสกัดจากดอกดาวเรือง) การบริโภคผักที่มีลูทีนเข้มข้นเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพดวงตา

ลูทีนอาจช่วยป้องกันโรคผนังหลอดเลือดแดงแข็งตัว (Atherosclerosis) ในระยะเริ่มแรก

สีขาว

ซิตรัส ไบโอฟลาโวนอยด์ จากพืชตระกูลซิตรัส

เป็นแหล่งอุดมของวิตามินซี และสารฟลาโวนอยด์ที่หลากหลาย เช่น เฮสเพอริดิน แทนเจเรติน และเลมอนนีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพส่งผลให้เซลล์มีการเจริญเติบโต เป็นปกติ

จากผลการศึกษาทางชีววิทยาพบว่าสารฟลาโวนอยด์จากพืชตระกูลซิตรัสกระตุ้นการทำงานของ เอนไซม์ขั้นที่ 2 ในตับ ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ช่วยล้างพิษในร่างกาย

ฮอร์สเซอราดิช

มีกลูโคซิโนเลทสูงที่สามารถเปลี่ยนเป็นซัลโฟราเฟนในร่างกายได้ ซัลโฟราเฟนช่วยกระตุ้น การทำงานของเอนไซม์ระยะที่ 2 ในตับ นอกจากนี้ยังมีเอนไซม์ไมโรซิเนส ซึ่งช่วยกระตุ้นการทำงานของสารที่ชักนำให้เกิดการสร้าง เอนไซม์ระยะที่ 2 ในตับ

สมุนไพร

เนื่องจากสมุนไพรมีค่า มีค่าความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูงมาก ที่สูงมาก ดังนั้น แม้จะรับประทานสมุนไพรปริมาณน้อยทุกวัน แต่ก็ยังช่วยเพิ่มระดับของสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารประจำวันได้อย่างมีนัยสำคัญ

รายงานล่าสุดชิ้นหนึ่ง ระบุว่าอาหารโดยทั่วไปของชาวนอร์เวย์ ประกอบด้วย สารต้านอนุมูลอิสระ ตามลำดับดังนี้

- 0.9 มิลลิโมล/วันจากผลไม้

- 0.6 มิลลิโมล/วันจากผลเบอร์รีต่างๆ

- 0.3 มิลลิโมล/วันจากซีเรียล

- 0.2 มิลลิโมล/วันจากผักต่างๆ

ในอาหารปกติ สมุนไพรที่นำมาปรุงอาหารชนิดแห้งจำนวน 1 กรัมอาจช่วยเพิ่มการรับสารต้าน อนุมูลอิสระจากอาหารมากกว่า 1 มิลลิโมล/วัน ดังนั้น จึงเป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนสุขภาพที่สำคัญ มากกว่าอาหารกลุ่มอื่นๆ

ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพ และไม่มีผลิตภัณฑ์ใดสามารถรับประกันว่าป้องกันโรคได้ ดังนั้น การดูแลสุขภาพด้วยโภชนาการพื้นฐานที่ดีที่สุด คือ การได้รับสารอาหารที่ร่างกายต้องการ อย่างเพียงพอสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ โปรตีนที่มีกรดอะมิโนจำเป็น เพื่อช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกเหรอ และอย่าลืมเติมเต็มให้ครบคุณค่าด้วยวิตามิน เกลือแร่ และไฟโตนิวเทรียนท์พร้อมกับ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อการมีสุขภาพชีวิตที่สมบูรณ์สูงสุด

วิตามิน
เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อสิ่งมีชีวิต ร่างกายต้องการในปริมาณน้อย แต่ขาดไม่ได้
หน้าที่โดยทั่วไปของวิตามิน
ช่วยให้อวัยวะต่างๆ ทำงานตามปกติ
ช่วยป้องกันและต้านทานโรค เนื่องจากทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานดีขึ้น
ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของร่างกาย
ทำหน้าที่เป็นเอนไซม์ หรือร่วมกับเอนไซม์ในการช่วยเร่งปฏิกิริยาเคมีในร่างกาย

แร่ธาตุ 
หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "เกลือแร่" เป็นสารอาหารที่จำเป็น แต่เป็นส่วนประกอบที่น้อยที่สุดของ ร่างกาย คือมีอยู่ประมาณร้อยละ 4 ของน้ำหนักตัว แม้จะมีอยู่เพียงเล็กน้อยแต่แร่ธาตุก็มีความสำคัญยิ่ง ต่อร่างกาย เพราะเป็นส่วนประกอบของโครงสร้างร่างกาย เช่น กระดูก ฟัน และบางส่วนก็อยู่ใน เนื้อเยื่ออ่อน และของเหลวในร่างกาย โดยที่ร่างกายจะต้องได้รับแร่ธาตุในปริมาณที่เพียงพอต่อการ ป้องกันโรคที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งไม่ควรได้รับมากหรือน้อยเกินไป

หน้าที่โดยทั่วไปของแร่ธาตุ
- รักษาความสมดุลของกรดและด่างในร่างกาย
- เป็นตัวเร่งสำหรับปฏิกิริยาทางชีวเคมีในร่างกาย
- เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกาย
- รักษาความสมดุลของน้ำในร่างกาย
- ช่วยในการรับ-ส่งประสาทความรู้สึก
- ควบคุมการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อ
- ช่วยในการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อ
การรับประทานวิตามินและเกลือแร่ให้ครบถ้วนและได้สัดส่วนพอเหมาะ เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วย สร้างพื้นฐานที่ดีให้กับสุขภาพร่างกาย

นอกจากนี้ยังมีสารอาหารที่มักพบในผักและผลไม้ รวมถึงสมุนไพรที่ให้ประโยชน์มากมายแก่ร่างกาย จากข้อมูลของกองทุนวิจัยมะเร็งระดับโลกและสถาบันวิจัยโรคมะเร็งของสหรัฐอเมริกา (World Cancer Research Fund and American Institute of Cancer research) ระบุว่า การเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมง่ายๆ เช่น การรับประทานผักและผลไม้วันละ 5 หน่วยบริโภค สามารถลดอัตราการ เกิดมะเร็งได้มากกว่า 20% และจาก World Health Report 2002 ระบุว่า การรับประทาน ผักและผลไม้จำนวนน้อยเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตสูงถึง 2.7 ล้านคนต่อปี นอกจากนี้ใน ผักผลไม้ยังประกอบด้วยสารสกัดจากพืชที่มีผลดีต่อสุขภาพ ที่เรียกว่า ไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients)

สารอาหารเหล่านี้ท่านสามารถเลือกมาบริโภคได้ด้วยความต้องการ ส่วนท่านที่ไม่มีเวลา ท่านสามารถเลือกใช้ บอดีคีย์ ผลิตภัณฑ์ทดแทนมืออาหารได้